ลดน้ำหนักยาโบราณ

@@@ ลดน้ำหนักด้วยยาโบราณ – ยาแผนโบราณ กับ การลดน้ำหนัก @@@
+++ บทความทางวิชาการเพื่อประชาชน +++
ปัจจุบันนี้ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์เป็นไปอย่างรวดเร็วมากนับแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีการค้นพบสาร และตัวยาต่างๆ มากมายที่มีสรรพคุณในการรักษาโรค และเป็นยาอันตรายต่างๆ การเลือกใช้ยาที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งที่จะทำให้ผู้บริโภคได้รับการรักษา หรือบำบัดอย่างถูกต้อง

ลดน้ำหนักยาโบราณ สูตรลดน้ำหนัก การลดน้ำหนัก
ลดน้ำหนักยาโบราณ สูตรลดน้ำหนัก การลดน้ำหนัก ภาพประกอบจาก อินเทอร์เน็ต

ซึ่งในปัจจุบันมีการสนับสนุนให้ใช้ “สมุนไพร ” ในการรักษาโรคต่างๆ และมีผลิตภัณฑ์สมุนไพรออกมามากจนเกิดการสับสนระหว่าง “สมุนไพร” และ “ยาแผนโบราณ ” ” สมุนไพร ” นั้นจะหมายถึง ยาที่ได้จากพฤกษชาติ สัตว์ หรือแร่ซึ่งมิได้ผสมปรุง หรือแปรสภาพ ในขณะที่ “ยาแผนโบราณ” เป็นการนำเอาสมุนไพรมาแปรรูปแล้วอาจจะอยู่ในรูปยาน้ำ ยาเม็ด หรือแคปซูล ซึ่งยาแผนโบราณนี้ การผลิต หรือนำสั่งเข้ามา จะต้องได้รับอนุญาตจาก อย. ก่อน รวมทั้งการขายยาแผนโบราณต้องขายเฉพาะในร้านขายยาแผนโบราณ หรือในร้านขายยาแผนปัจจุบันเท่านั้น

@@@ ยาแผนโบราณ “ลดความอ้วน” ได้จริงหรือ??… @@@
ทุกวันนี้มีผลิตภัณฑ์ ที่ผลิตออกมาเพื่อวัตถุประสงค์ในการลดความอ้วนกันมากมาย มีการโฆษณาส่งเสริมการขายตามสื่อต่างๆ กันหลายรูปแบบ เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคที่สนใจ หรือกำลังตัดสินใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ลดความอ้วนกันอยู่ เช่น ยาระบายที่ขึ้นทะเบียนว่าเป็น ” ยาสามัญประจำบ้าน ” ไว้บนฉลาก ได้แก่

@@@ ยาระบายมะขามแขกคือ @@@
ฝักมะขามแขกที่เอาเมล็ดออกแล้ว จัดเป็นยาที่ระบายออกฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ วิธีใช้ให้รับประทานก่อนนอน หรือตอนเช้า ยาสามัญประจำบ้านเป็นยาที่สามารถเลือกใช้ด้วยตนเอง และมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง แต่ยาทุกชนิดอาจเกิดพิษ เกิดอันตรายกับผู้ใช้ได้ ถ้าแพ้ยา ใช้ยาไม่ถูกวิธี ใช้ยานานเกินไป หรือใช้ยามากเกินไป ผู้ป่วยที่เป็นโรคบางอย่าง สตรีมีครรภ์ เด็ก และผู้สูงอายุ ซึ่งมีข้อจำกัดทางสภาพร่างกาย อาจได้รับอันตรายจากยา ได้ง่ายกว่าคนทั่วไป ดังนั้นการใช้ยาในบุคคลกลุ่มดังกล่าว ต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ ให้แพทย์หรือเภสัชกรเป็นผู้แนะนำการใช้ยาระบายจะปลอดภัยกว่า

นอกจากนั้นแล้วการใช้ยาระบายติดต่อกัน อาจทำให้ร่างกายเคยชินกับยาทำให้ใช้ยาในขนาดเดิมไม่ได้ผล ต้องเพิ่มขนาดของยาซึ่งทำให้เพิ่มความเสี่ยงจากการใช้ยา จึงไม่ควรใช้ยาติดต่อกันโดยแพทย์ไม่ได้แนะนำ และยาระบายไม่ใช่ยาลดน้ำหนักหรือลดความอ้วน จึงไม่ควรใช้เพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว เพราะอาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่จนเป็นอันตรายได้

แต่การโฆษณายาแผนโบราณที่เป็นยาระบาย ถึงแม้ฉลากจะมีการกำกับว่า “เหมาะสำหรับผู้มีปัญหาเรื่องการขับถ่าย ไม่มีส่วนช่วยในการควบคุมน้ำหนัก (ไม่ใช่ยาลดความอ้วน)” แต่ภาพประกอบการโฆษณานำเอาผู้หญิงร่างเพรียว สวย หรือดาราที่มีชื่อเสียง ทำให้ผู้บริโภคคิด และจินตนาการว่ายาแผนโบราณชนิดนั้นสามารถนำมาใช้ลดน้ำหนักได้ ซึ่งไม่ผิดกฎหมายการโฆษณายาตามพระราชบัญญัติยาที่กำหนดไว้

@@@ สารสกัดจากผลส้มแขก เชื่อกันว่าสามารถลดน้ำหนักได้จากกลไกคือ ? @@@
hydroxycitric acid (HCA) จะออกฤทธิ์โดยไปยับยั้งการทำงานของเอ็นไซม์ ATP Citrate Lyase ในวงจร Kreb’s cycle (วงจรการย่อยสลายกลูโคสของร่างกาย) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ทำหน้าที่เปลี่ยน citrate ไปเป็น acetyl Co A ซึ่งนำไปใช้สร้างกรดไขมัน ขณะเดียวกันก็จะนำน้ำตาลไปสะสมเป็น glycogen ที่ตับ เพื่อใช้เป็นพลังงานสำรองได้อีกด้วย จึงเชื่อกันว่าสารสกัดส้มแขกสามารถยับยั้งกระบวนการสร้างกรดไขมันของร่างกาย นำไปสู่การลดเนื้อเยื่อไขมัน และการลดน้ำหนักได้ แต่จากงานวิจัยของ Heymsfield และคณะในปี 1998 บอกว่าสารสกัดจากผลส้มแขก ไม่สามารถลดน้ำหนักได้

@@@ สารสกัดจากถั่วขาว @@@
มีสารสำคัญชื่อว่า ฟาซิโอลามีน (Phaseolamin) มีคุณสมบัติทำให้เอนไซม์อะไมเลสเป็นกลาง ดังนั้นแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตที่เราบริโภคเข้าไปนั้นจึงไม่สามารถเปลี่ยนจาก แป้งกลายเป็นน้ำตาลได้ถึง 50-66% หากได้รับสารสกัดจาก “ถั่วขาว” เข้าไปในปริมาณ 500 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งมีผลทำให้การสะสมของไขมันในร่างกายที่เกิดจากน้ำตาลในแป้งลดน้อยลง เมื่อร่างกายได้รับพลังงานไม่เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน ดังนั้นร่างกายก็จะเผาผลาญไขมันเก่าที่สะสมออกมาใช้มากยิ่งขึ้นร่วมไปถึงยังลดระดับไตรกรีเซอไรด์ในร่างกายด้วยจึงทำให้น้ำหนักลดลงโดยไม่ต้องใช้วิธีอดอาหาร หรือกินยาลดความอ้วน

งานวิจัยที่สนับสนุนสรรพคุณของถั่วขาว ในปี 2001 และ 2004 ได้มีการศึกษาถึงคุณสมบัติจากสารสกัดถั่วขาวพบว่า สารสกัดจากถัวขาวสามารถลดน้ำหนักตัว ลดระดับไตรกลีเซอไรด์ รวมทั้งขนาดของเอวลดลงได้ แต่ต้องมีการรับประทานสารสกัดถั่วขาวในขนาด 500 mg ถึงจะมีผลต่อการลดน้ำหนัก

@@@ สารสกัดจากกระบองเพชร @@@
เป็นสารอาหารประเภทเส้นใย (fiber) สารต้านอนุมูลอิสระ และ Sterol glycosides จากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ที่ตั้งข้อสงสัยว่าเป็นสาร sterol glycoside หรือไม่ที่มีผลลดความอยากอาหาร จึงตั้งสมมุติฐานไว้ว่า สาร sterol glycoside นี้อาจส่งสัญญาณไปหลอกสมองส่วน Hypothalamus ว่าน้ำตาลในเลือดสูงพอแล้ว ไม่ต้องกินอะไรเพิ่มอีกแล้ว เพื่อสนับสนุนสมมุติฐานนี้ นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดลองโดยนำสารสกัดจากกระบองเพชร Hoodia Gordonii ฉีดใส่ในสมองของหนูทดลอง แล้วตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงในสมอง ที่สุดก็พบว่ามีการเพิ่มขึ้นของระดับพลังงาน(ATP) ในสมองของส่วน Hypothalamus ถึง 150% นี่อาจเป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งบอกความเพียงพอในระดับพลังงานที่สมองต้องการ ขณะเดียวกันก็พบว่าหนูมีความต้องการอาหารลดลงถึง 60% จึงสรุปในเบื้องต้นว่า sterol glycoside น่าจะเป็นสารสำคัญที่ควบคุมความหิวได้

@@@ สารสกัดจากแอปเปิ้ล @@@
มีสารสำคัญ คือ เบต้าแคโรทีน วิตามินซี และเส้นใยไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำคือ เพคติน และมีกรด 2 ชนิด คือ กรดมาลิค และกรดทาร์ทาริก ซึ่งช่วยในการย่อยอาหารจำพวกโปรตีน และไขมัน แต่เพคตินจะมีคุณสมบัติช่วยลดความอยากอาหาร ลดน้ำหนักและลดโคเลสเตอรอล แอปเปิ้ลหนึ่งลูกจะช่วยลดความหิวได้ เพราะแอปเปิ้ลมีแป้ง และน้ำตาลในรูปของน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวถึง 75% ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมน้ำตาลพิเศษชนิดนี้ ได้รวดเร็วและนำไปใช้ประโยชน์ได้ในเวลาไม่เกิน 10 นาที ดังนั้นความอยากอาหารจึงลดลง ทำให้ไม่รู้สึกหงุดหงิดหรืออ่อนเพลีย

การกินแอปเปิ้ล 2-3 ผลต่อวัน ช่วยลดปริมาณโคเลสเตอรอลในกระแสเลือดได้ เพราะแอปเปิ้ลมี เพคติน ซึ่งเป็นไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ ผลการวิจัยชี้ว่า เมื่อกรดในทางเดินอาหารย่อยสลายไขมัน และแยกโคเลสเตอรอลออกมาเสร็จสิ้นแล้ว เพคตินจากแอปเปิ้ลจะไปคอยดักจับโคเลสเตอรอลเหล่านั้นจะพาทิ้งก่อนที่จะถูกดูดกลับเข้าร่างกาย และยังพบว่าแอปเปิ้ลลดโคเลสเตอรอลในผู้หญิงได้ดีกว่าผู้ชาย

@@@ แอลคารนิทีน (L-Carnitine) @@@
เป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่ผลิตได้ที่ตับ และไตโดยมีการสังเคราะห์จากกรดอะมิโน 2 ชนิด คือ ไลซีน (Lysine) และเมไทโอนิน (Methionine) พร้อมกับอาศัยตัวเร่งให้เกิดการสังเคราะห์ ได้แก่ Niacin วิตามินบี 6 วิตามินซี และธาตุเหล็ก โดยปกติจะพบในสัตว์เนื้อแดงชนิดต่างๆ โดยเฉพาะในส่วนกล้ามเนื้อลายจะมากเป็นพิเศษ ในความจริง หน้าที่ของแอลคาร?นิทีน คือจะช่วยลำเลียงโมเลกุลไขมันเล็กๆ เข้าไปในเซลล์ต่างๆ ซึ่งจะทำให้เกิดการนำไขมันไปเปลี่ยนเป็นพลังงาน ดังนั้นหากร่างกายขาดสาร แอลคาร?นิทีน หรือไม่เพียงพอที่จะเป็นตัวพาไขมันไปเผาผลาญแล้ว ปัญหาสุขภาพอันเนื่องมาจากการไขมันสะสม ก็จะส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นความอ้วน และการสะสมไขมันตามหลอดเลือด เป็นต้น

จากงานวิจัยพบว่า แอลคาร?นิทีนสามารถลดน้ำหนักตัว และลดปริมาณไขมันในกระแสเลือดลงได้อย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นถึงแม้ว่า แอลคาร?นิทีนจะพบมากในสัตว์เนื้อแดงก็ตาม แต่ปริมาณที่ได้จากการรับประทานใน 1 วัน จะให้กรดอะมิโนดังกล่าวเพียง 50 – 200 มิลลิกรัมเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอต่อการเปลี่ยนไขมันสะสมไปเป็นพลังงาน ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่าหากต้องการลดน้ำหนักด้วยสารธรรมชาติ แอลคาร?นิทีน ต้องได้รับในขนาด 500-1,000 มิลลิกรัมต่อวัน

@@@ Hydrolyzed Collagen (คอลลาเจนพร้อมรับประทาน) คือ @@@
collagen ที่ผ่านการถูกย่อย(hydrolyze)ให้เป็นโมเลกุลเล็กลง โดยอาจใช้เอนไซม์ช่วยย่อย หรือโดยผ่านกระบวนการทางเคมี ดังนั้นจะดีกว่า collagen ที่ไม่ผ่านการ ถูกย่อย(hydrolyze)เพราะการที่มันมีโมเลกุลเล็กทำให้ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้น แต่ร่างกายของเราสามารถดูดซึม Hydrolyzed Collagen ได้ 45 % หลังจากรับประทานอาหารไปแล้ว 1 ชั่วโมง และมีการนำมาใช้ในการลดน้ำหนัก เนื่องจาก collagen เป็นส่วนประกอบของกรดอะมิโน (โปรตีน) ทั้งหมดอยู่ประมาณ 18 ชนิด ซึ่งมีความสำคัญต่อการฟื้นฟู และเจริญเติบโตของเซลล์ในส่วนต่างๆ ของร่างกาย กรดอะมิโน (โปรตีน) จึงมีข้อดีในการช่วยเผาผลาญพลังงานลดไขมันส่วนเกิน

ซึ่งคุณสมบัติของคอลลาเจนที่ช่วยด้านการลดน้ำหนักยังไม่มีข้อมูลที่รองรับว่าสามารถลดน้ำหนักได้จริง แต่ส่วนใหญ่จะมีการนำคอลลาเจนมาใช้เพื่อช่วยให้ผิวพรรณเกิดความชุ่มชื้น ช่วยเสริมความเรียบตึงให้กับผิวหนัง ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของชั้นผิวหนัง และเสริมให้กระดูกแข็งแรง เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีสารจากสมุนไพรต่างๆ ที่นำมาแปรรูปเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นยาแผนโบราณ ได้แก่ ขิง พริกไทย พริกสด ตะไคร้ ใบแมงลัก ข่า และกระเทียม ช่วยเพิ่มการเผาผลาญอาหารในร่างกาย น้ำสำรอง น้ำแมงลัก ขลู่ ซึ่งสมุนไพรดังกล่าวยังมีงานวิจัยรับรองสรรพคุณการลดน้ำหนักน้อยอยู่

ดังนั้น ไม่ว่าจะลดน้ำหนักด้วยวิธีใด การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการรับประทานอาหาร ควบคู่กับการออกกำลังกายที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ได้ผลเร็ว และปลอดภัยกว่าการรับประทานยาใดๆ ทั้งหมด

@@@ เอกสารอ้างอิง@@@
1. Heymsfield SB, Allison DB, Vasselli JR, Pietrobelli A, Greenfield D, Nunez C.Garcinia cambogia (Hydroxycitric Acid) as a Potential Antiobesity Agent.JAMA. 1998 Nov 11; 18(280): 1596-600.
2. http://www.samunpai.com
3. http://www.medplant.mahidol.ac.th หน่วยบริการฐานข้อมูลสมุนไพร สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลถนนศรีอยุธยา
4. http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/article/4261
5. www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=180&sub_name=ยับยั้งการดูดซึมไขมัน&sub_id=79&ref_main_id=13&mtop_name=ประโยชน์ของสารสกัดจากกระบองเพชร
6. http://www.livewellguide.com/sport/thai/sport2004_40.html
ที่มา masterorg.wu.ac.th

Leave a Reply